27.6 C
Bangkok
วันอังคาร, กันยายน 26, 2023

กล้วยปิ้ง พร้อมวิธีทำน้ำราด สูตรเด็ด อร่อยเหาะ ทำขายได้สบายๆ

กล้วยปิ้ง เป็นอาหารธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา และเป็น อาหารเพื่อสุขภาพ ได้เหมือนกันนะครับ และดีต่อสุขภาพด้วย ถ้าไม่ทานให้หวานมากจนเกินไป เมนูนี้ อาจจะมองว่า ก็แค่เอากล้วยมาปิ้ง ไม่เห็นจำเป็นต้องมีสูตร หรือว่า ต้องทำอะไร ให้มันยุ่งยากเลย แต่ความจริงแล้ว การทำของหวาน เมนูนี้ ไม่ง่ายนะครับ มันต้องพิถีพิถัน ตั้งแต่การเลือกกล้วย ไปจนถึง การทำน้ำราด เลยนะครับ เมนูขนมหวานไทย ส่วนใหญ่ จะเป็นแบบนี้ อะไรที่ดูพื้นๆ ไม่ยาก แต่พอทำจริงๆ แล้ว ถ้าจะทำให้มันออกมาอร่อย จนทำขายเป็นอาชีพได้นั้น ทำยากครับ เมนูนี้ ผมตั้งใจ เอามาแนะนำกัน เพื่อให้ทุกท่าน ที่กำลังมองหา อาชีพเสริม เอาไปลองทำ เป็นทางเลือกดูครับ เพราะการทำ เมนูกล้วยปิ้ง นี้ขายนั้น ถือเป็นความฉลาดอย่างมาก เพราะลงทุนต่ำ มีวัตถุดิบตลอดทั้งปี และคนทาน ก็สามารถทานได้ตลอด กินแล้วไม่อ้วน ( ถ้าไม่กินหวานมาก ) ดีต่อสุขภาพ ดีกว่าไปกินขนมห่อ ที่มีผงชูรสเยอะแยะเสียอีก นี่คือขนมโบราณ ขนานแท้ ที่เราควรจะอนุรักษ์เอาไว้ และเชิดชู ให้เป็นขนมที่มี คุณค่าทางอาหาร และกินเป็นทางเลือก สำหรับคนที่ต้องการ ลดน้ำหนัก และไม่อยากกินข้าว ตอนกลางวัน หรือตอนเย็น ได้เลยนะครับ

เมนูนี้ ผมกล้ายืนยันได้เลยว่า ถ้าทำอร่อยจริง รับรองว่า ขายแล้ว รวยแน่นอนครับ คนไทยเรา ชอบกิน กล้วยปิ้ง กันทุกคน มันอยู่ที่ว่า ร้านไหนทำออกมาแล้ว อร่อยกว่ากัน คำว่าอร่อย หมายถึง เนื้อของกล้วย ว่ามีความนุ่ม อร่อยแค่ไหน รวมทั้งน้ำราด ต้องไม่หวานแหลมจนเกินไป พูดง่ายๆ ก็คือ ต้องพิถีพิถันทุกขั้นตอน ซึ่งผมก็จะเอาสูตรมาบอกกัน ทุกขั้นตอน เพียงแต่ว่า เวลาที่ท่านทำขาย จะทำได้ละเอียด และใส่ใจทุกขั้นตอนตามนี้หรือไม่ ถ้าทำตาม รับรองได้ว่า ดัง และรวยแน่นอนครับ

วัตถุดิบสำคัญ

  • กล้วยน้ำว้า เปลือกบาง ไม่สุกมาก
  • น้ำตาลปิ๊บ
  • น้ำตาลตโนด
  • น้ำตาลทรายแดง
  • น้ำตาลทรายขาว
  • หัวกะทิ
  • ใบเตย
  • น้ำเกลือ ( เอาเกลือมาละลายน้ำ )

วิธีทำ กล้วยปิ้ง และสูตรน้ำราด

  1. เริ่มต้นด้วยการทำ น้ำราด กันก่อนเลยครับ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจหลัก ของความอร่อย ซึ่งจะใช้ น้ำตาลปิ๊บ 3 ส่วน น้ำตาลตโนด 1 ส่วน น้ำตาลทรายแดง และน้ำตาลทรายขาว อีกอย่างละ 1 ส่วน ใส่ลงไปในหม้อ
  2. เท่านั้นยังไม่พอนะครับ ยังต้องใส่ เกลือลงไป อีกเกือบๆ 1 ส่วน เพื่อช่วยตัดหวาน ไม่ให้มันหวานแหลม จนเกินไป
  3. เตรียมหัวกะทิ โดยใช้เพียง 3 ใน 4 ส่วนเท่านั้น โดยใส่ผสมลงไป ในหม้อที่มีน้ำตาล ใส่รอไว้อยู่แล้วก่อนหน้านี้ โดยเก็บอีก 1 ส่วนเอาไว้ ใส่ทีหลัง ตอนที่เคี่ยวน้ำราด พร้อมกับใบเตย
  4. เมื่อใส่ทุกอย่าง ที่กล่าวมาแล้วลงไปในหม้อเรียบร้อย ก็ติดไฟ เอาหม้อขึ้นไปตั้งได้เลยครับ ใช้ไฟอ่อนๆ นะครับ
  5. ค่อยๆ คนให้ทุกอย่าง ละลาย และเข้ากัน ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที ทุกอย่างจะเข้ากันเป็นอย่างดีครับ
  6. พอทุกอย่างเข้ากันแล้ว ก็เอาใบเตย ที่ล้าง ทำความสะอาดแล้ว ใส่ลงไปได้เลย
  7. ใส่กะทิ ที่เหลืออีก 1 ส่วน ลงไป
  8. คนทุกอย่างให้เข้ากัน คนไปเรื่อยๆ ประมาณ 30 – 40 นาที ก็ถือว่าใช้ได้แล้วครับ
  9. ขั้นตอนต่อไป เป็นการเตรียมเตาถ่าน การปิ้งกล้วย ต้องใช้เตาถ่านเท่านั้น ซึ่งต้องใช้ไฟอ่อนถึงปานกลาง ต้องมีการเกลี่ยถ่าน ให้เสมอกัน และอัดให้แน่นๆ ทั่วทั้งเตาปิ้งนะครับ เพื่อให้มีความร้อนคงที่ เท่ากันตลอดทั้งเตา ทุกๆ จุด อันนี้สำคัญนะครับ ถ้าไม่พิถีพิถันตรงนี้ ก็จะทำให้ กล้วยสุกไม่เท่ากัน ไหม้บ้าง ดิบบ้าง แย่เลยนะครับ
  10. ต่อไปก็เป็นขั้นตอน การเลือกกล้วย กล้วยที่นำมาใช้ ต้องเป็น กล้วยน้ำว้าสวน ที่สีเหลืองอ่อนๆ ลูกกลมๆ มีเหลี่ยมเหลือนิดๆ กำลังดี
  11. เอากล้วยมาปอก และเสียบไม้ นำขึ้นไปปิ้ง เป็นครั้งที่ 1
  12. ปิ้งไปเรื่อยๆ และกลับตลอดเวลา อย่าปล่อยทิ้งนะครับ เพื่อให้มันได้รับความร้อน อย่างทั่วถึง
  13. พอปิ้งจนเหลืองนวลแล้ว จึงนำขึ้นมา ทุบๆ ให้แบนๆ
  14. จากนั้นนำไปทาด้วย น้ำเกลือ
  15. นำกลับไปปิ้งอีก เป็นครั้งที่ 2 เพื่อให้น้ำเกลือแห้ง ติดที่ผิวกล้วย
  16. รอจนเกลือแห้ง ติดผิวกล้วย จากนั้น นำขึ้นมา ราดด้วย น้ำราด ที่เราเคี่ยวเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ราดให้ฉ่ำๆ แล้วปล่อยให้สะเด็ดน้ำ แล้วเอากลับไปปิ้งอีก เป็นครั้งที่ 3 เพื่อให้ความหวานติดผิวกล้วย
  17. ปิ้งไปอีกสักพัก จนน้ำตาลเดือด และเคลือบผิวกล้วยเรียบร้อยแล้ว ก็นำเอามา ตัดเป็นชิ้น แล้วราดด้วย น้ำราดอีกที เป็นอันเสร็จแล้วครับ

เคล็ดลับสำคัญในการทำ กล้วยปิ้ง และน้ำราด ให้อร่อย

  • การเลือกกล้วย ต้องใช้ กล้วยน้ำว้า ที่มีสีเหลืองอ่อนๆ ไม่เข้มมาก คือไม่สุกเกินไป กำลังดี โดยสังเกตง่ายๆ สีจะเหลืองอ่อนๆ มีเหลี่ยมเหลือนิดๆ ถ้ามีเหลี่ยมมากไป แสดงว่า ยังไม่สุกดี แต่ถ้าไม่มีเหลี่ยมเหลือเลย แสดงว่า สุกมากไป ต้องเอาที่มีเหลี่ยมเหลือนิดๆ ก็พอ เพื่อให้รสชาติออกมาอร่อย บางที่เล่นใช้กล้วยดิบ แบบนั้นยังไงก็ไม่อร่อยหรอกครับ เอาต้องเกือบสุก ถึงจะกำลังดี
  • การทาเกลือ ที่กล้วยนิดหน่อย อย่าทาจนชุ่มนะครับ มันจะเค็มเกินไป เอาแค่ทั่วๆ บางๆ ก็พอ แล้วเอาไปปิ๊งอีกครั้งหนึ่ง ก็เพื่อลดความหวาน ของรสชาติโดยรวม เมื่อราดน้ำหวานแล้ว รสชาติมันจะได้ ไม่หวานแหลม จนเกินไป จนเลี่ยน จึงเอาเค็มมาตัดนิดๆ ทำให้คนทาน เจริญอาหารมากขึ้น
  • สิ่งที่จะทำให้เมนูนี้ โดดเด่น กว่าร้านอื่น หรือแตกต่าง กว่าทุกที่ ก็อยู่ตรงที่น้ำราด ซึ่งหัวใจหลัก ก็อยู่ที่ น้ำตาลปิ๊บ และน้ำตาลตโนด มันขึ้นอยู่กับว่า ท่านจะหา และเลือกใช้ของดี ที่หอม และมีคุณภาพแค่ไหน ถ้าท่านเจอแหล่งที่ทำแบบ ธรรมชาติ และหอมดีจริงๆ รับรองว่า ทำยังไงออกมา ก็อร่อยครับ แต่ถ้าท่านเลือกใช้ ของตลาดทั่วๆ ไป ท่านก็ไม่ต้องแปลกใจ ถ้าทำน้ำราดออกมาแล้ว ยังรู้สึกว่า มันขาดอะไรไปอยู่ เพราะรสชาติแบบนี้แหละครับ ที่ผมเรียกว่า “มันยังไปได้ไม่สุด” ซึ่งสาเหตุ ก็มาจาก เรายังใช้วัตถุดิบ ที่ไม่ดีพอนั่นเอง ถ้าทำขาย ผมแนะนำให้เลือกใช้ ของดีๆ จากสวน เลยครับ จะหอม หวาน อร่อยที่สุดครับ

มีบางท่าน สอบถามเข้ามาว่า ขออนุญาตแชร์ สูตรนี้ทาง Facebook ได้หรือไม่ อันนี้ผมขอประกาศไว้ทางนี้เลยนะครับ หากท่านใดชื่นชอบ สามารถนำสูตรนี้ไปแชร์ แบ่งปัน หรือบอกต่อให้ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติสนิท มิตรสหาย และเพื่อนๆ ของท่าน ผ่านทาง Facebook และ LINE ได้เต็มที่เลยนะครับ เพราะสูตรอาหารไทย ก็มีไว้เพื่อคนไทยอยู่แล้ว เพียงแต่ช่วยเครดิตที่มานิดนึง ว่ามาจากเว็บ ฟู้ดเทพ สูตรอาหารออนไลน์ แห่งนี้ เพื่อจะได้ไม่ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ด้วยนะครับ แนะนำว่า ถ้าอยากจะแชร์ กดปุ่มแชร์ทาง Facebook ที่อยู่ท้ายสูตรทุกเมนูอาหาร ได้เลยครับ ผมทำเอาไว้ให้แล้ว ง่ายและสะดวกดีครับ

ท่านใด มีสูตรอาหาร แล้วต้องการเผยแพร่ เพื่อเป็นวิทยาทาน แก่คนทั่วไป เพื่อให้ สูตรอาหาร ของท่าน คงอยู่ไปตลอดกาล สามารถส่งมาให้เรา ช่วยเผยแพร่ลงใน เว็บฟู้ดเทพ ได้เลยครับ ส่งมาทาง “ข้อความส่วนตัว” ในเพจ Facebook: foodtep ได้เลยครับ ผมจะนำมาใส่ใน ตำราอาหารออนไลน์ แห่งนี้เอาไว้ให้ พร้อมกับเครดิต ชื่อเจ้าของสูตรด้วย ว่าใครเป็นเจ้าของสูตรนั้น

อย่าลืมกด LIKE เพื่อติดตาม สูตรอาหารออนไลน์ และเคล็ดลับเด็ดๆ ในการทำอาหาร ที่เพจ Foodtep.com กันด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาด เวลามีเมนูใหม่ๆ มาบอกสูตรกัน และอย่าลืม แสดงความคิดเห็น ว่าคุณชอบสูตรเมนูนั้นๆ หรือไม่ ในหน้าเพจ Facebook ของเราด้วยนะครับ ขอขอบคุณสำหรับการติดตามครับ

เมนูอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ข้าวต้มกระดูกหมู วิธีทำ พร้อมสูตร อาหารที่ดูเหมือนง่ายแต่ทำให้อร่อย ยากนะ

ข้าวต้มกระดูกหมู เป็นเมนูอาหารที่ฟังดูแล้ว เหมือนจะเป็นอะไรที่ง่ายๆ ไม่เห็นจะต้องมีสูตร หรือเคล็ดลับอะไรให้ซับซ้อน แต่จริงๆ แล้ว มันอะไรที่มากกว่านั้นครับ ถ้าคุณยังไม่เคยกินข้าวต้มกระดูกหมู ที่อร่อยสุดๆ มาก่อน ผมแนะนำว่า ให้ลองทำตามสูตรนี้ ที่บ้านดูครับ ทำหม้อเล็ก วัตถุดิบไม่กี่บาทหรอกครับ แต่คุณจะรู้เลยว่า มันอร่อย และดีกว่าที่เคยไปกินตามร้านมากแค่ไหน ขั้นตอนอาจจะดูเหมือนเยอะ และยุ่งยาก แนะนำให้อ่านดูให้จบก่อนครับ แล้วจะรู้ว่า มันไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย...

ปลาช่อนเผาเกลือ สุดยอดความอร่อย ที่สามารถทำเองที่บ้านได้

ปลาช่อนเผาเกลือ เป็นอีกหนึ่งเมนูปลาเผา ที่ผมชื่นชอบมากๆ ครับ ( อันนี้โดยส่วนตัวเลยนะครับ ) และเป็นอีกเมนู ที่คนส่วนใหญ่ ไม่นิยมทำทานกันเองที่บ้าน แต่นิยมไปซื้อตามร้านอาหาร แบบที่ทำเสร็จแล้ว กลับมาทานที่บ้าน ด้วยเหตุผลที่ว่า ขั้นตอนการทำมันยุ่งยาก แม่บ้านบางคน ก็กลัวว่า ถ้าทำไม่เป็น จะทำให้มีกลิ่นคาว และกินไม่อร่อย แต่ที่บ้านผมตั้งแต่เด็กๆ พ่อผมก็จะทำเมนูนี้ กันเองที่บ้านตลอด ไม่ยุ่งยาก...

ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เมนูอาหารที่ทําง่ายๆที่บ้าน หรือจะทำขายก็ได้

ก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เป็นอีกหนึ่งเมนู ที่ผมชอบทานมากๆ เหตุผลก็เพราะว่า มันมีแป้งน้อย และมีผักเยอะ เหมาะกับการทานเพื่อลดน้ำหนัก และลดไขมันในเลือด และผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน มีสารอาหารครบ 5 หมู่จริงๆ เมนูนี้ มีขายอยู่ในศูนย์อาหาร แทบจะทุกห้าง ในตลาดนัดก็มี เรียกได้ว่า เป็นเมนูที่หาซื้อทานกันได้ไม่ยาก แต่ราคาของมัน ก็แพงเว่อร์เกินไป เมื่อเทียบกับคุณภาพ อันนี้พูดกันตามตรง จากที่เคยเจอมา ส่วนใหญ่...

ทับทิมกรอบ กะทิสด ทำเองก็ได้ที่บ้าน ง่ายๆ ตามสูตรนี้เลย

ทับทิมกรอบ กะทิสด ถือเป็นเมนูขนมไทย เมนูหนึ่ง ที่เรียกได้ว่า อร่อย และทำง่ายมากๆ เหมาะที่จะทำกินตอนหน้าร้อนสุดๆ เพราะจะได้ความสดชื่นสุดๆ เมนูนี้ มีขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยากเลยครับ เป็นอะไรที่ง่ายมากๆ แต่ในปัจจุบัน คนส่วนใหญ่ ไม่นิยมทำอะไรแบบนี้ทานกันแล้ว เพราะมองว่า ขนมไทย เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ต่างหันไปเอาดีในการทำ เบเกอรี่กันหมด ทั้งๆ ที่ ในความเป็นจริงแล้ว ขนมไทย...