เมนู ตำซั่ว สูตรนี้ ผมรับรองได้ว่า ถูกใจสาวๆ ทุกท่านอย่างแน่นอนครับ แต่ในเมนูนี้ ผมจะดัดแปลง ทำให้ไม่เหมือนกับ ตำซั่ว ที่เรากินกันจากร้านอาหารอีสานทั่วๆ ไป เพราะปกติแล้ว จะใส่ขนมจีนลงไปตำด้วย แต่เนื่องจากผมไม่ชอบแบบนั้น เพราะถ้ากินไม่หมด เหลือแล้วกินต่อไม่ได้เลย เพราะเส้นขนมจีนมันจะอุ้มน้ำมากเกินไป และอืด เส้นขนมจีน เวลาโดนตำ กระจัดกระจาย กินแล้วไม่สะใจ ดูแล้วก็ไม่น่ากิน (สำหรับผมนะ) ผมจึงใช้วิธีการ ตำเครื่องเอาไว้ สามารถตักราด หรือจะตักไปใส่คลุกกับ ขนมจีนได้ในจานของแต่ละคนได้เลย ข้อดีก็คือ สามารถปรุงแต่งรส ความเผ็ด เปรี้ยว หรือ เค็ม เพิ่มเติมได้อีก ในจานของตัวเอง โดยไม่ต้องยุ่งกับ จานหลัก และสามารถเก็บเอาไว้ได้ ตำเช้า เย็นก็ยังกินได้ ไม่เสีย ไม่บูดง่าย สามารถปรับเปลี่ยน จากเส้น ขนมจีน ไปเป็น เส้นเล็ก หรือ วุ้นเส้น ก็ยังได้ แล้วแต่ความชอบ บางท่านอาจจะมองว่า มันจะแซ่บถึงใจอย่างนั้นหรือ ผมรับรองได้ว่า แซ่บแน่นอนครับ เพราะการเอาเส้นขนมจีนลงไปตำ หรือจะเอามาคลุกกับน้ำที่เราตำไว้แซ่บๆ ตัวขนมจีน มันก็ดูดน้ำได้เท่ากันแน่นอน รับรองได้ถึงความแซ่บ ที่เข้าไปในเส้นขนมจีนแน่นอน เพียงแต่ผมจะทำแบบแยกส่วน เพื่อให้เกิดความอ่อนตัว ในการเอาไปรับประทาน ก็แค่นั้นครับ
วัตถุดิบและส่วนผสมหลัก
- มะละกอ
- ปลากรอบ
- แคบหมู
- น้ำปลาร้า
- น้ำมะขาม
- กระเทียม
- มะเขือเปราะ
- มะเขือเทศ
- ขนมจีน
- สะระแหน่
- พริกแห้ง
- ถั่วงอก
- น้ำตาลปิ๊บ
- น้ำปลา
ขั้นตอนการทำ ตำซั่ว แบบแยกขนมจีน
- เริ่มด้วยการ ใส่พริกแห้ง กับกระเทียม ลงไปตำก่อน
- ใส่ปลากรอบ ลงไปตำด้วย ( ถ้าใช้ปลากรอบตัวเล็ก ก็ไม่ต้องใส่ลงไปตำครับ )
- ใส่มะเขือเปราะฝานเป็นแว่นๆ ลงไป ตำแบบบุนิดๆ พอ
- ใส่ น้ำปลาร้า น้ำมะขาม น้ำปลา น้ำตาล ลงไป ตำให้เข้ากันเบาๆ แล้วชิมรสดู ปรุงเพิ่มได้ตามใจชอบครับ
- ใส่ มะเขือเทศ ฝานลงไป
- ใส่ มะละกอ ลงไป ตามชอบครับ แต่โดยปกติ จะใส่ไม่เยอะนะครับ
- เป็นอันเสร็จแล้ว ตักใส่จานได้เลยครับ หรือจะราดบนขนมจีนเลยก็ได้ครับ ตามด้วยถั่วงอก ใส่ตามชิบ
- โรยสะระแหน่ และแคบหมู เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
เคล็ดลับเมนู ตำซั่ว
- พริกแห้ง ที่นำมาใช้ ต้องตากแดดจัดๆ ทั้งวัน ให้มันแห้งเลยนะครับ ถ้าวันเดียวไม่แห้ง ก็ตากอีกวัน หรือสองวันก็ได้ครับ ถ้ามันแห้งแล้วจริงๆ เวลาเอามาตำแล้ว มันจะกรอบ แตกง่ายดีครับ ถ้าไม่ได้ตากแดดจนแห้ง มันจะเหนียวนะครับ
- มะละกอ ถ้าไม่รู้จักข้อดีของแต่ละพันธ์ุ แนะนำให้เลือกเอาแบบที่ ลูกยาวๆ อย่าเลือกลูกอ้วนๆ สั้นๆ นะครับ
- ควรทำน้ำยำเอาไว้จะดีกว่า เพราะส่วนใหญ่แล้ว จะตำได้ยาก น้ำมันจะกระเด็นเลอะเทอะ ควรมาทำ น้ำยำรสเด็ด แบบที่ผสมเอาไว้แล้วจะดีกว่า โดยการเอา กระเทียมมาตำก่อน แล้วใส่ น้ำมะขาม น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลาร้า ผสมกัน จนได้รสที่ “นัว” ตามที่ท่านพอใจ แล้วเอาน้ำยำที่ได้นี้ ไปใส่แทนใน ขั้นตอนการทำ ข้อที่ 4 ได้เลยครับ
หากถูกใจเมนูนี้ กด LIKE ที่แฟนเพจใน Facebook ได้เลยครับ แต่ถ้าเห็นว่า สูตรนี้น่าสนใจ แชร์ให้เพื่อนๆ อ่านดูกันได้เลยครับ ทางฟู้ดเทพของเรา มีความยินดีที่ทุกท่านจะนำ สูตรเหล่านี้ ไปแชร์ต่อได้เลยครับ