น้ำเต้าหู้ เป็นเครื่องดื่มที่ผมทานทุกวัน เพราะมันมีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก ยิ่งคนทำงาน ที่ใช้สายตาทุกวันเหมือนผม อีกทั้งยังมีอายุมากแล้ว ไม่เหมาะที่จะกิน นมวัว ซึ่งผมเริ่มทานไม่ได้แล้ว ทานไปไม่นาน ก็จะท้องอืด ไม่ย่อย และท้องเสียได้ คือ น้ำย่อย ที่จะย่อยนมวัว เริ่มหมดไปแล้วครับ จึงต้องหันมาทาน น้ำเต้าหู้ถั่วเหลือง ที่มีโปรตีนสูงแทน จริงอยู่ที่บางท่าน อาจจะมองว่า น้ำเต้าหู้ถั่วเหลือง ราคาถุงละ 6 – 8 บาทเอง บางร้านอาจจะแพงกว่านั้น ขึ้นอยู่กับทำเล ว่าเป็นที่ไหน ในห้างอาจจะเป็นถุงละ 10 – 15 บาท หลายท่านอาจจะมองว่า ไม่เห็นต้องทำเองให้ยุ่งยากเลย ซึ่งมันก็เป็นความจริง ตามนั้นครับ ถ้าท่านรู้สึกว่ามันยุ่งยาก ก็ไม่ควรทำครับ แต่สำหรับผม ผมมีเหตุผล 3 อย่างครับ คือ 1. ผมทำเอง จะได้ น้ำเต้าหู้ถั่วเหลือง ที่เข้มข้นแบบสุดๆ และ 2. ผมจะได้ฟองเต้าหู้ ซึ่งเป็นส่วนที่มีประโยชน์มากๆ เอาไว้กินด้วย 3. ไม่มีร้านน้ำเต้าหู้ ที่อยู่ใกล้บ้าน ที่สามารถเดินไปซื้อได้ครับ ถ้าจะกิน ต้องขับรถออกไปไกล สรุปก็คือ ดูๆ แล้ว ทำเองยังไง ก็คุ้มกว่าครับ ทำทุกวันยังได้เลยครับ ขั้นตอนการทำ มันไม่ได้ยุ่งยากอะไรอย่างที่คิด ใช้แค่เครื่องปั่น กับการกรอง แค่นั้นเอง ทุกวันนี้ ผมก็ทำกินเองครับ โดยใส่ขวดเอาไว้ กินตอนเช้า และตอนกลางวัน ที่ทำงานด้วยครับ สะดวกสบาย และไม่ต้องไปเดินหา ร้านขายน้ำเต้าหู้ อีกต่อไปแล้วครับ














วัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้
- เมล็ดถั่วเหลืองแห้ง 1 กก.
- น้ำตาล
- ใบเตย 4 – 5 ใบ
- น้ำสะอาด
- ผ้าขาวบางสำหรับกรอง
วิธีทำ น้ำเต้าหู้
- นำเล็ดถั่วเหลืองแห้ง เทใส่กะละมัง ล้างน้ำหลายๆ ครั้ง จนเปลือกและเมล็ดที่เสีย หลุดออกไปมากที่สุด
- แช่ถั่วเหลืองไว้ 1 คืน
- จากนั้น นำมาล้างน้ำ อีกหลายๆ น้ำ จนฟองที่ลอยขึ้นมาหมดไป และล้างให้เปลือกที่หลุด ลอยออกให้มากที่สุด
- เตรียมหม้อสำหรับต้ม โดยมีผ้าขาวบางสำหรับกรองขึงไว้บนปากหม้อให้หย่อนเล็กน้อย แล้งมัดกับหูของหม้อทั้ง 2 ข้าง
- ตักเมล็ดถั่วใส่เครื่องปั่นครึ่งโถ เติมน้ำสะอาดให้สูงกว่าถั่ว 1ซม.
- ปั่นจนละเอียด แล้วเทลงผ้ากรองขาวบางที่เตรียมไว้ ทำแบบนี้จนเมล็ดถั่วหมด
- รวบผ้าขาวบาง แล้วบีบน้ำถั่วเหลืองออกจนหมด นำกากออกทิ้ง
- นำผ้าวขาวบาง มากรองอีก 2 ครั้ง เพื่อให้มีกาก หรือตะกอน น้อยที่สุด
- มัดใบเตย ประมาณ 4 – 5 ใบ ใส่ลงในหม้อ
- นำหม้อตั้งไฟอ่อนๆ หมั่นคนเรื่อยๆ
- เมื่อน้ำเต้าหู้เริ่มเดือด หรือเริ่มมีควันร้อนขึ้นมา ลองชิมดู เพื่อจะได้รู้ว่ายังมีกลิ่นเหม็นเขียวของถั่วอยู่หรือไม่
- คนไปเรื่อยๆ จนหมดกลิ่นเหม็นเขียว
- เติมน้ำตาลตามชอบ ชอบหวาน ก็เติมเยอะหน่อย หรือจะไม่เติมเลย แล้วเอาไว้เติม ตอนตักขึ้นมากินเป็นแก้วก็ได้
- เมื่อ น้ำเต้าหู้ถั่วเหลือง เดือดแล้ว ปิดไฟ
- ตักใส่ถ้วย ดื่มอุ่นๆ ได้เลยครับ
เคล็ดลับการทำ น้ำเต้าหู้
- การเลือกถั่วเหลือง ให้ดูว่าเมล็ดถั่วมีสีเหลืองสวย มีน้ำหนัก ไม่แห้งเบา ไม่มีสีน้ำตาล ไม่มีกลิ่นเหม็นหืน แม้ว่าจะซื้อมาเป็นถุง อย่างของ ไร่ทิพย์ ก็ต้องแกะออกมาดู แล้วเลือกเหมือนกันนะครับ ไม่ใช่ว่า ไว้ใจ 100% เลย
- การเริ่มล้างถั่ว อาจจะแช่น้ำแรกไว้ประมาณ 10 นาที เมล็ดที่ลีบแห้ง จะลอยน้ำขึ้นมา เราก็ตักทิ้งได้โดยง่าย
- การต้มน้ำ ต้องต้มด้วยไฟอ่อนๆ และหมั่นคน จะทำให้ไม่มีกลิ่นไหม้ อย่าใช้ไฟแรง หรือไฟกลาง เด็ดขาด ไม่อย่างนั้น อาจมีกลิ่นเหม็นไหม้ได้