เมื่อเช้าผมไปเดินที่ตลาด เห็นแม่ค้านำ ปลาช่อนนา แท้ๆ มาขาย ตัวขนาดใหญ่น่าดูเลยทีเดียว ก็เลยซื้อติดกลับมา 2 ตัว ให้แม่ค้า ขอดเกล็ด และเอาเครื่องในออกมาให้เรียบร้อย ตั้งใจว่า จะเอามาทำเมนู ปลาช่อน แกงกะทิ กินเป็นมื้อกลางวัน สักตัวหนึ่ง อีกตัวก็คิดดูก่อนว่าจะทำอะไรกินดี เพราะปลาช่อนเนี่ย เนื้อของมันอร่อยมากนะครับ ปกติพ่อผมมักจะไปจับมาให้ทานบ่อยๆ เป็นปลาช่อนสวน ซึ่งรสชาติ และขนาดตัว จะแตกต่างจาก ปลาช่อนนา พอสมควร คนสมัยใหม่ส่วนใหญ่ มักจะรู้จักเมนู ปลาช่อนเผาเกลือ กันซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นเมนูประจำของร้านลาบ หรือร้านอาหารหลายๆ ร้าน แต่อันที่จริงแล้ว ปลาช่อน สามารถนำมาทำอาหารได้หลายอย่าง อร่อย และเนื้อเยอะกว่า ปลาดุก อีกนะครับ ผมเอง เป็นคนที่ชอบกิน ปลาช่อน มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เนื้อมันเยอะ แต่ข้อเสียหลักๆ ก็อาจจะเป็นเพราะ ก้างของมัน เล็ก และเยอะมากๆ รวมทั้ง ถ้านำมาทำไม่ดี จะมีกลิ่นคาวมาก คนรุ่นใหม่ทุกวันนี้ เลยไม่ค่อยจะซื้อปลาช่อน มาทำอาหารกันสักเท่าไหร่ น่าเสียดายมากๆ ครับ เท่านั้นยังไม่พอ ปัจจุบัน มีฟาร์มปลาช่อน จำนวนมาก เกิดขึ้นมา หรือที่เรียกกันว่า ปลาช่อนเลี้ยง ซึ่งความแน่นของเนื้อ และความคาว จะแตกต่างจาก ปลาช่อนนา ที่โตตามธรรมชาติ มากพอสมควร เรียกได้ว่า กินแล้วรู้เลยครับ ว่านี่ปลาเลี้ยง หรือปลาจับมาตามธรรมชาติ
ส่วนที่อร่อยที่สุดของปลาช่อนนั้น แน่นอนว่า อยู่ตรงพุง อย่างแน่นอนครับ พุงของมัน อร่อย และมันมากๆ มีประโยชน์ต่อร่างกายสุดๆ อีกด้วย แต่ถ้าคนที่ชอบเนื้อเยอะๆ อาจจะใช้ส่วนหาง มาทำเมนู แกงกะทิ นี้ก็ได้เช่นกันนะครับ อยู่ที่ความชอบ สำหรับผม ใช้ทั้งตัวเลยครับ เพราะมีคนทานเยอะ
สำหรับเมนู แกงกะทิ ปลาช่อน เมนูนี้ แม้ว่ามันจะเรียกว่าแกง แต่มันจะออกแนว กึ่งๆ แกง และผัดเผ็ดมากกว่าครับ เพราะปริมาณน้ำของมันนั้น จะไม่เยอะครับ แต่ก็ไม่น้อยถึงขนาดขลุกขลิก เรียกว่า กำลังพอราดข้าวทานได้ แต่ไม่เยอะขนาดเอามาซดเล่น หรือพูดง่ายๆ ก็คือ น้ำแกงมันไม่ท่วมเนื้อปลา เมื่อเวลาตักใส่ชามครับ ว่าแล้ว เราก็มาดูส่วนผสม และวิธีทำกันดีกว่าครับ
วัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้
- ปลาช่อน หั่นเป็นชิ้นๆ ตามขวาง
- หัวกะทิ
- มะเขือเปราะ
- ใบมะกรูดซอย
- ใบโหระพา
- พริกแกง
- พริกชี้ฟ้า
- เกลือป่น
- น้ำตาลทราย
- น้ำปลา
ขั้นตอนการทำ ปลาช่อน แกงกะทิ
- เปิดเตาแก๊ส ตั้งกระทะ ใส่หัวกะทิลงไปในกระทะ
- ใส่พริกแกงลงไป ผัดให้เข้ากันกับกะทิ จนเป็นเนื้อเดียวกัน
- ผัดจนสีเริ่มออกเป็นเหลืองส้ม พอกะทิเริ่มแตกมัน ก็ปรุงรสด้วย น้ำตาลทรายขาว เกลือป่น และน้ำปลา
- ใส่ปลาช่อน ที่หั่นเป็นชิ้นๆ แล้วลงไป
- ผัดทุกอย่าง ให้เข้ากัน จนปลาช่อนเริ่มสุก
- เติมกะทิลงไปเพิ่มอีกเยอะๆ จนพอดีตามต้องการ แล้วปล่อยให้เดือด
- ใส่มะเขือเปราะ ใบมะกรูดซอย และพริกชี้ฟ้า ลงไป
- เมื่อมะเขือเริ่มสุกได้ที่ ก็เป็นอันเรียบร้อย ใส่ใบโหระพาลงไป แล้วปิดไฟ ตักใส่ชามได้เลยครับ
- โรยหน้าด้วยพริกชี้ฟ้า เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ
เคล็ดลับสำคัญของเมนู ปลาช่อน แกงกะทิ
- เนื้อปลาช่อน ที่นำมาใช้ ควรจะเป็น ปลาช่อนนา ตัวโตนิดนึง ถึงจะมีเนื้อให้กินเยอะ ถ้าใช้ปลาตัวเล็ก จะไม่อร่อย หรือถ้าใช้ปลาเลี้ยง เนื้อก็จะไม่แน่นเช่นกัน
- ปริมาณกะทิ ที่นำมาใช้ ก็อยู่ที่ความชอบของคนทานครับ ถ้าชอบทานแล้วมันๆ หอมๆ ก็ใส่เยอะๆ แต่ถ้าลดความอ้วน หรือเป็นเบาหวาน ก็ให้ใส่กะทิน้อยลงครับ
- ความเผ็ดร้อนของเมนูนี้ อยู่ที่พริกแกง ดังนั้นต้องควบคุมความเผ็ด ที่การทำพริกแกง อย่าลดปริมาณพริกแกงที่ใส่ เพราะจะทำให้ความเข้มข้นลดน้อยลง