ข้าวผัดซีอิ๊ว หรืออีกชื่อหนึ่ง ที่คนโบราณ จะรู้จักกันเป็นอย่างดี ก็คือ ข้าวผัดรถไฟ เหตุที่ชื่อว่า ข้าวผัดรถไฟ ก็เนื่องมาจาก ในสมัยก่อน การเดินทางโดยรถไฟ ถือเป็นการเดินทาง ที่สะดวก และได้รับความนิยม มากที่สุด เนื่องจากในสมัยนั้น รถยนต์ยังมีไม่เยอะ รถเมล์ ก็ยังมีน้อย รถไฟ จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เมนูข้าวผัดซีอิ๊ว นี้ ถูกผัดขึ้นมาแบบง่ายๆ แล้วขายบนโบกี้รถไฟ แต่พอยุคสมัยเปลี่ยนไป รถเมล์ รถแท็กซี่ รถส่วนตัว เข้ามาแทนที่ ข้าวผัดรถไฟ นี้ ก็ถูกลืมเลือน และหายไป เหลือแต่ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว เท่านั้น ที่ไปขายบนรถไฟแทน เมนูนี้ คุณพ่อ คุณแม่ผม เคยทาน ตอนนั่งรถไฟไปลพบุรีบ่อยๆ ท่านยังจำรสชาติได้เป็นอย่างดี และได้พยายามทำเรื่อยมา ผมก็ไม่ทราบหรอกนะครับ ว่ารสชาติจริงๆ แล้ว มันเป็นยังไง รู้แต่ว่า สูตรที่คุณพ่อ กับคุณแม่ ทำให้ทาน มันก็อร่อยเด็ดอยู่แล้ว ผมก็เลยอยากจะเอามาฝากกันครับ ไม่อยากให้เมนูนี้ มันเลือนหายไป เพราะมันคือ “ประวัติศาสตร์ และ วัฒนธรรมทางอาหาร ของไทย” แท้ๆ เลยนะครับ
ถ้าจะให้พูดกันตรงๆ วิธีทำข้าวผัดซีอิ๊ว นี้ ก็มีความคล้ายกับ ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ๊ว นั่นแหละครับ ผัดออกมาแล้ว หน้าตามีน้ำตาลๆ ออกดำๆ คล้ายๆ กัน ก็แน่นอนล่ะ ต้องมีซีอิ๊ว มาเป็นส่วนผสมหลัก ที่ส่งกลิ่นหอมอยู่แล้ว แต่มันมีเคล็ดลับบางอย่าง ที่ทำให้แตกต่างเล็กน้อย ในเรื่องของการเตรียมข้าวสวย ที่จะนำมาผัด และการใส่เครื่องปรุง เรามาดูกันครับ ว่ามันทำยังไงกันนะ กับ เมนูข้าวผัดรถไฟ เมนูนี้
วัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้
- ข้าวสวย ที่หุงโดยการผสม ระหว่าง ข้าวเสาไห้ และข้าวหอมมะลิ ดูอัตราส่วนการผสมข้าวได้ที่ สูตรข้าวผัดปู
- เนื้อหมูสันนอก
- น้ำมันหมู ( ได้จากการเจียวมันหมู เช่น จากเมนู กากหมูผัดกระเพรา )
- กระเทียมไทย
- หอมหัวใหญ่
- ยอดคะน้า
- ซีอิ๊วขาว
- ซีอิ๊วดำ
วิธีทำ ข้าวผัดซีอิ๊ว
- นำเนื้อหมูสันนอก มาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วนำไปหมัก ให้เนื้อหมูนุ่ม โดยใช้แป้งมัน ไข่ไก่ และน้ำมันหมู ใส่ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันอย่างดี แล้วก็หมักในกล่อง ใส่ตู้เย็นทิ้งเอาไว้ 1 คืนเลยครับ ( หรือจะใช้วิธีอื่นๆ ก็ได้ ตาม วิธีหมักหมูนุ่ม ที่ผมเคยแนะนำไปก่อนหน้านี้แล้ว )
- พอครบ 1 คืนแล้ว ก็เอาเนื้อหมูออกมา ล้างน้ำให้สะอาด เพื่อล้าง คราบไข่ไก่ และน้ำมันหมู ที่เราใส่ไว้ ออกไปให้หมด เพื่อให้เหลือแต่เนื้อหมู ที่สะอาดล้วนๆ และมีความนุ่ม เรียบร้อยแล้ว
- ติดไฟ ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันหมูลงไป ใช้ไฟกลางนะครับ
- ใส่กระเทียม ที่แกะแต่เปลือก ชั้นนอกสุดเท่านั้น บุให้พอแตก แล้วก็ใส่ลงไปในกระทะ
- เจียวกระเทียม จนเหลือง และหอม
- พอเจียวจนกระเทียม หอมมากๆ แล้ว ก็ใส่เนื้อหมูลงไปผัด จำไว้ว่า ต้องผัดให้สุกแค่นิดเดียวพอครับ
- พอหมูเริ่มสุกนิดนึงแล้ว ก็ใส่ข้าวสวย ลงไปผัดได้เลย ตอนนี้ เร่งไฟให้แรงจัดๆ ได้เลยครับ
- ผัดข้าวตลอดเวลา อย่าหยุดนะครับ เดี๋ยวข้าวจะไหม้
- ปรุงรสด้วย น้ำตาล ซีอิ๊วขาว
- ผัดให้ทุกอย่างเข้ากัน แล้วลองชิมดู ปรุงรสเพิ่มได้ ถ้ายังไม่ถูกใจ
- ผัดต่อไป จนทุกอย่างเข้ากันดี เป็นเนื้อเดียวกัน ก็ใส่ซีอิ๊วดำ ลงไป
- ใส่หอมหัวใหญ่ และยอดคะน้า ลงไป ผัดให้เข้ากัน
- ใส่มะเขือเทศ เป็นอย่างสุดท้าย ผัดไปเรื่อยๆ จนข้าวแห้ง เป็นเม็ดๆ ร่วนๆ ก็ถือว่าใช้ได้
- ใส่พริกไทยป่นลงไป ผัดต่อไปอีกหน่อยจนหอมพริกไทย
- ตักใส่จาน เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ
- กินคู่กับ มะนาว พริกน้ำปลา ต้นหอม แตงกวา ฟินสุดๆ จนหาอะไรมาเปรียบ ไม่ได้เลยครับ
เคล็ดลับสำคัญของเมนู ข้าวผัดซีอิ๊ว
- การหมักหมู ให้นุ่ม ถือเป็นเคล็ดลับสำคัญ และสูตรเด็ดของเมนูนี้เลยนะครับ ต้องหมักทิ้งเอาไว้ 1 คืนเต็มๆ จะทำให้หมูนุ่มมากๆ อย่าหมักน้อยกว่านั้น และอย่าหมักนานกว่านั้น มันจะเสียได้ครับ
- สิ่งที่สำคัญมากๆ ของเมนูข้าวผัด ทุกเมนูเลยก็คือ หัวเตาแก๊สครับ มันต้องสามารถปรับให้แรงแบบสุดๆ ได้ การใช้หัวเตาแก๊สแบบธรรมดาๆ ทั่วไป แบบบ้านๆ ก็ต้องทำใจนะครับ ว่าอาจจะผัดให้อร่อยได้เหมือนร้านอาหารยากหน่อย เพราะตอนที่ปรับไฟให้แรงสุดๆ นั้น มันไม่ได้แรงจัดจริงๆ ต้องเป็นหัวเตาอีกแบบ ที่ใช้ทำแกงหม้อใหญ่ พวกนั้นนั่นแหละครับ ที่จะปรับให้แรงจัดๆ ได้ ข้าวผัด มันต้องผัดด้วยไฟแรงจัดๆ ข้าวมันถึงจะเด้ง แห้ง และร่วน ต้องเข้าใจถึงจุดนี้ด้วยนะครับ
- ถ้าใครไม่อยากหมักหมู หรือคิดว่ามันเสียเวลา ก็สามารถใช้หมูสับ มาแทนได้ครับ พอทดแทนกันได้ ช่วยให้ตัดขั้นตอนการหมักหมูไปได้ครับ
- การผัดหมู ร่วมกับกระเทียมนั้น ให้ผัดเอาแค่พอสุก อย่าผัดจนสุกมากไป เพราะจะทำให้เนื้อหมูแข็งกระด้าง ไม่อร่อย เอาแค่พอสุกนิดๆ ก็พอ เพราะเราต้องผัดกับข้าวต่อไปอีก คำนวณให้ดีนะครับ
- อัตราส่วน การผสมข้าว ระหว่าง ข้าวเสาไห้ ( ข้าวเก่า ) และข้าวหอมมะลิ ( ข้าวเก่า ) สามารถดูได้ในเมนู ข้าวผัดปู ได้เลยครับ เพื่อให้ข้าวมีความร่วน และแห้งจริงๆ เวลาผัดจนมันร้อนได้ที่ ข้าวมันจะเด้งเป็นเม็ดๆ เห็นๆ เลยนะครับ อย่าใช้ข้าวหอมมะลิล้วนๆ มาผัดเด็ดขาด ข้าวจะไม่เป็นเม็ด และจะเละ ไม่ร่วน
- ข้าวสวย ที่นำลงมาผัด ต้องเป็นข้าว ที่เย็นแล้ว จะเอาข้าวร้อนๆ จากหม้อ มาผัดไม่ได้ ข้าวจะแฉะ ติดกันเป็นก้อน ไม่ร่วน ไม่อร่อย
หากท่านต้องการปักหมุด หรืออยากเก็บสูตรอาหาร เมนูนี้ไว้อ่านทีหลัง แนะนำให้ท่าน ทำการ แชร์ เมนูนี้ ลงใน เฟสบุ๊ค ของท่านเอง จะดีที่สุดครับ แค่กด LIKE อย่างเดียว มันจะหาไม่เจอครับ ต้องแชร์เอาไว้ใน Timeline ของท่านเลย จะดีที่สุดครับ หรือท่านอาจจะเลือกทำการ Bookmark เอาไว้ที่หน้าเว็บของท่านก็ได้ครับ เพื่อความสะดวก เวลาเปิดย้อนกลับมาดูใหม่ หรือไม่ ก็แค่จำชื่อเมนูเอาไว้ แล้วมาพิมพ์ค้นหา ในช่องค้นหา ของเว็บ ฟู้ดเทพ แห่งนี้ได้เลยครับ ตอนนี้เรามี สูตรอาหาร มากกว่า 100+ เมนูแล้วครับ
มีบางท่าน สอบถามเข้ามาว่า ขออนุญาตแชร์ สูตรนี้ทาง Facebook ได้หรือไม่ อันนี้ผมขอประกาศไว้ทางนี้เลยนะครับ หากท่านใดชื่นชอบ สามารถนำสูตรนี้ไปแชร์ แบ่งปัน หรือบอกต่อให้ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติสนิท มิตรสหาย และเพื่อนๆ ของท่าน ผ่านทาง Facebook และ LINE ได้เต็มที่เลยนะครับ เพราะสูตรอาหารไทย ก็มีไว้เพื่อคนไทยอยู่แล้ว เพียงแต่ช่วยเครดิตที่มานิดนึง ว่ามาจากเว็บ ฟู้ดเทพ สูตรอาหารออนไลน์ แห่งนี้ เพื่อจะได้ไม่ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ด้วยนะครับ แนะนำว่า ถ้าอยากจะแชร์ กดปุ่มแชร์ทาง Facebook ที่อยู่ท้ายสูตรทุกเมนูอาหาร ได้เลยครับ ผมทำเอาไว้ให้แล้ว ง่ายและสะดวกดีครับ
ท่านใด มีสูตรอาหาร แล้วต้องการเผยแพร่ เพื่อเป็นวิทยาทาน แก่คนทั่วไป เพื่อให้ สูตรอาหาร ของท่าน คงอยู่ไปตลอดกาล สามารถส่งมาให้เรา ช่วยเผยแพร่ลงใน เว็บฟู้ดเทพ ได้เลยครับ ส่งมาทาง “ข้อความส่วนตัว” ในเพจ Facebook: foodtep ได้เลยครับ ผมจะนำมาใส่ใน ตำราอาหารออนไลน์ แห่งนี้เอาไว้ให้ พร้อมกับเครดิต ชื่อเจ้าของสูตรด้วย ว่าใครเป็นเจ้าของสูตรนั้น
อย่าลืมกด LIKE เพื่อติดตาม สูตรอาหารออนไลน์ และเคล็ดลับเด็ดๆ ในการทำอาหาร ที่เพจ Foodtep.com กันด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาด เวลามีเมนูใหม่ๆ มาบอกสูตรกัน และอย่าลืม แสดงความคิดเห็น ว่าคุณชอบสูตรเมนูนั้นๆ หรือไม่ ในหน้าเพจ Facebook ของเราด้วยนะครับ ขอขอบคุณสำหรับการติดตามครับ