แกงเห็ด นั้น เป็นอาหารที่เรียกได้ว่า หนึ่งในอาหารยอดนิยม มีขายอยู่แทบจะทุกที่ ตั้งแต่ร้านริมถนน ตลาดนัด ไปจนถึงในฟาสฟู้ด ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ แต่เชื่อหรือไม่ว่า รสชาติของแกงเห็ดแต่ละที่นั้น ไม่เหมือนกันเลยสักที่ ผมเองก็เป็นคนหนึ่ง ที่ชอบทานแกงเห็ดมากๆ เพราะประโยชน์ของมันนั้นมีมากมายมหาศาล เฉพาะน้ำใบหญ้านางอย่างเดียว ก็ประโยชน์เหลือล้นแล้ว แต่จากการที่ผม ไปทานตามร้านนั้น ร้านนี้มาเยอะ ทำให้เห็นถึงจุดบกพร่องหลายๆ อย่าง เห็ดน้อยไปบ้าง รสชาติเผ็ดไปบ้าง ไม่หอมบ้าง พูดง่ายๆ ว่า ไปกินมาทุกที่ ก็ไม่เจอแบบที่ถูกใจเลยสักครั้ง จึงหันมาทำกินเองมันซะเลย ดีที่สุด
แม้ว่า ประโยชน์ของ แกงเห็ด นั้น จะมีอยู่มากมาย ทั้งในเรื่องของ สารอาหารจากเห็ด ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งยังเป็น อาหารลดความอ้วน แคลอรี่ต่ำ ที่หาทานได้ง่าย แต่ก็ยังมีผลข้างเคียงบางอย่างจากอาหารชนิดนี้ นั่นคือ ความเค็ม ซึ่งเป็นอันตรายต่อไตมากๆ ครับ เพราะหลายๆ ที่ ใส่ทั้งน้ำปลา ทั้งปลาร้า เน้นไปที่ความเค็มจัด ซึ่งไม่เป็นผลดีกับสุขภาพในระยะยาวแน่ๆ ผมเองจึงค้นหาสูตร ที่จะทำแกงเห็ด โดยไม่ต้องใส่น้ำปลา ไม่ต้องเติมเครื่องปรุง และปลอดภัยกับไตของผมเอง เรียกได้ว่า ผมจะนำเสนอเมนู แกงเห็ดเพื่อสุขภาพ อย่างแท้จริง นั่นเองครับ
สำหรับสูตรในการทำแกงเห็ดของผมนั้น จะแตกต่างจากร้านทั่วๆ ไป ตามตลาดมากๆ เพราะผมจะไม่นำน้ำใบหญ้านางเพียวๆ มาต้ม แต่จะมีการผสมกับน้ำซุป เพื่อความหอม และรสชาติที่อร่อย โดยไม่ต้องใส่ผงชูรส เป็นอาหารเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง
วัตถุดิบ
- เห็ด (แล้วแต่เลยครับ ว่าจะใช้กี่ชนิด ตามแต่ชอบ)
- บวบ
- ยอดชะอม
- ใบแมงลัก
- ใบหญ้านาง
- น้ำกระเทียมดอง
- ปลาร้า (ปลากระดี่เท่านั้น)
- น้ำซุปไก่ หรือน้ำซุปหมูก็ได้ อย่าใส่แบบผงซุป หรือก้อนซุปนะครับ ให้เคี่ยวจากกระดูกหมู หรือกระดูกไก่เองจะดีที่สุดครับ ปลอดภัยกว่าเยอะครับ
- กะปิ (ต้องเป็นกะปิคุณภาพดี ถ้าได้จาก จ.ระนอง จะดีมากๆ)
ขั้นตอนการทำ น้ำใบหญ้านาง
- นำใบหญ้านาง มาล้างให้สะอาด แล้วใช้กรรไกร ตัดเป็นชิ้นๆ เล็กๆ แต่ไม่ต้องเล็กมากนะครับ เอาแค่พอดีๆ เพื่อที่เวลาใส่ลงไปในเครื่องปั่นแล้ว มันจะได้ปั่นละเอียดๆ ครับ
- จากนั้น นำใบหญ้านางที่ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้ว ใส่ลงไปในเครื่องปั่น เติมน้ำลงไป ปั่นให้ละเอียด
- นำผ้าขาวบาง มากรองเอาแต่น้ำ ไม่เอากากนะครับ
เป็นอันจบขั้นตอนการทำ น้ำใบหญ้านางครับ
ต่อไปเป็นขั้นตอนการทำน้ำปลาร้า (สำหรับท่านที่ไม่ชอบทานปลาร้า ข้ามไปได้เลยครับ ไม่ต้องใส่ก็ได้) ผมเองจะใส่ในอัตราส่วนที่น้อย เพื่อไม่ให้เค็มจัด ดีต่อสุขภาพครับ
ขั้นตอนการทำ น้ำปลาร้า
- นำน้ำปลาร้า ซึ่งทำมาจากปลากระดี่ มาต้มกับน้ำกระเทียมดอง เคี่ยวไปเรื่อยๆ จนเดือด แล้วจึงนำมากรอง เอาแต่น้ำครับ
ขั้นตอนการทำ แกงเห็ด
- นำน้ำซุปหมู หรือน้ำซุปไก่ ใส่หม้อ ตั้งไฟ ไม่ต้องใส่เยอะนะครับ ใส่แค่ 1/2 ของปริมาณที่ต้องการจะทำก็พอ จากนั้นเติมน้ำใบหญ้านาง ลงไปอีกครึ่งหนึ่ง (สัดส่วนน้ำซุป กับน้ำใบหญ้านาง 1:1)
- จากนั้นเติมเครื่องลงไป ได้แก่ พริกขี้หนูสวน กะปิ และน้ำปลาร้า อย่าใส่น้ำปลาร้าเยอะนะครับ ใส่แค่นิดหน่อยพอ เดี๋ยวมันจะเค็มจนเกินไป
- จากนั้นก็คนไปเรื่อยๆ จนเดือด
- พอเริ่มเดือดแล้ว ก็ใส่ผักตามต้องการเลยครับ โดยเริ่มจาก ผักที่สุกยากก่อน นั่นคือ บวบ (ถ้ามีอย่างอื่น ก็ใส่เพิ่มลงไปได้ครับ)
- ปล่อยให้เดือดสักพัก แล้วก็ใส่ เห็ดลงไปได้เลยครับ
- คนไปเรื่อยๆ จนเริ่มเดือดอีกครั้ง ก็ให้ใส่ ยอดชะอม และใบแมงลัก ลงไป เพื่อความหอม
- ปิดแก๊ส ยกลงจากเตา เทใส่ชาม เป็นอันจบครับ
เคล็ดลับสำคัญของการทำ แกงเห็ด
- ใบหญ้านาง ที่นำมาทำ ต้องเลือกเอาแต่ใบที่แก่ๆ
- ปริมาณใบหญ้านางที่ใช้ ส่วนใหญ่จะใช้แค่ 1 กำมือ ก็มากเพียงพอแล้วครับ ยกเว้นทำขาย อาจจะใช้เยอะตามต้องการครับ
- น้ำใบหญ้านาง ต้องทำเอง อย่าไปซื้อตามตลาดนะครับ เพราะเราไม่รู้ว่า เค้าทำมาสะอาดแค่ไหน ล้างใบหญ้านางสะอาดก่อนนำมาปั่นหรือเปล่าก็ไม่รู้ ที่สำคัญ การทำเอง นอกจากจะสะอาดแล้ว ยังหอมกว่าเยอะครับ
- น้ำปลาร้า ที่นำมาใช้ ต้องมีคุณภาพเกรดดีหน่อย เช่นเดียวกับ น้ำกระเทียมดอง ก็ต้องเลือกเกรดดีเช่นกัน
- การนำปลาร้า หรือเอาเฉพาะน้ำ มาต้มกับ น้ำกระเทียมดอง นั้นก็เพื่อให้ได้น้ำปลาร้าที่มีรสชาติกลมกล่อม ไม่เค็มมากเกินไป เพราะ น้ำปลาร้ามีรสเค็มจัด
- ส่วนน้ำกระเทียมดอง ก็มีรสเปรี้ยว เมื่อนำมาผสมกัน รสชาติที่ได้ก็จะพอดี ส่วนคนที่ชอบเค็ม หรือชอบเปรี้ยว ก็ปรับสัดส่วนของ น้ำกระเทียมดอง และน้ำปลาร้า เอาเองตามสะดวกนะครับ
- บวบ ต้องใส่ตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนเห็ดนะครับ เพราะมันสุกช้ามากๆ รอจนบวบสุกจนนิ่มก่อน แล้วถึงค่อยใส่ เห็ดลงไป
ยอดชะอม และใบแมงลัก จะใส่ก่อนปิดแก๊ส นิดนึง เรียกได้ว่า ใส่เป็นอย่างสุดท้าย ก่อนยกเสิร์ฟก็ได้ครับ