ข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน เมนูชวนอ้วน ที่เปี่ยมไปด้วยกะทิ และความหวาน ที่รับรองว่า กินแล้วอ้วนแน่นอน แต่เชื่อหรือไม่ว่า ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น มันก็หยุดไม่ได้จริงๆ ครับ เพราะความอร่อย และความมันของกะทิ ผสมกับรสชาติที่สุดแสนจะหอมหวานของทุเรียน มันทำให้คนที่ชอบกินทุเรียน ไม่สามารถที่เมินเฉยต่อเมนูนี้ได้ แต่ถึงแม้ว่ามันจะอร่อยแค่ไหน ก็ยังมีร้านค้าอีกจำนวนไม่น้อย ที่ทำออกมาแล้ว ไม่อร่อย รสชาติไม่ถึง สาเหตุส่วนใหญ่ ผมบอกได้เลยครับ ว่ามาจาก การที่ร้านนั้นๆ ไม่ใช้กะทิสด 100% แต่ลดต้นทุน โดยการใช้ กะทิสำเร็จรูป และครีมทีม เข้ามาผสม เพื่อเพิ่มความมัน รวมทั้งใส่กลิ่นมะพร้าวอ่อน เข้าไปอีก ของแบบนี้ พอทำออกมาแล้ว หน้าตาจะเหมือนๆ กัน แต่รสชาติ มันโกงกันไม่ได้ครับ ชิมดูก็รู้แล้วครับ ว่าใช้กะทิกล่องมาทำ เพราะต่อให้แต่งเติมรสและกลิ่น ด้วยการพยายามเอาอะไรมาใส่ เพื่อลดกะทิลง และลดต้นทุนยังไงก็ตาม ก็ไม่สามารถมีอะไร มาทดแทนรสชาติและกลิ่นของกะทิได้ครับ ยังไงๆ กะทิสด ก็สุดยอดที่สุด ดังนั้น ถ้าท่านซื้อทุเรียนหมอนทอง และชะนี แบบที่คุณภาพดีๆ มา ผมแนะนำว่า ทำเมนูนี้ กินเองเลยดีกว่าครับ เพราะขั้นตอนการทำนั้น ไม่ยากเลย ถ้าทำกินภายในครอบครัว ใช้มะพร้าวแค่ 3 ลูกก็โอเคแล้วครับ ขั้นตอนการทำ ก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร ที่สำคัญ รสชาติของกะทิที่เราทำออกมา รับรองว่า อร่อยกว่าไปกินตามร้านหลายสิบเท่า และที่แน่นอนกว่าอะไรทั้งหมด ถ้าทำตามสูตรที่ผมแนะนำแล้ว รับรองว่า ทำออกมา ยังไงก็อร่อยครับ
วัตถุดิบที่จำเป็นต้องใช้
- ทุเรียนชะนี หรือ หมอนทอง
- มะพร้าว
- ข้าวเหนียว เขี้ยวงู จาก อ.แม่จัน จ.เชียงราย
- น้ำตาลมะพร้าว
- น้ำตาลทรายขาว
- เกลือ
- สารส้ม
วิธีทำ ข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน
- เริ่มต้นด้วยการ ใส่สารส้ม ลงไปซาวในน้ำกับข้าวเหนียว เพื่อจะขัดเมือกของข้าวเหนียวออกให้หมด
- จากนั้น ล้างด้วยน้ำเปล่าอีกหลายๆ ครั้ง (ประมาณ 3 น้ำ ก็จะใสแล้ว) จนน้ำใส
- พอล้างจนน้ำใสแล้ว ก็แช่น้ำทิ้งเอาไว้อีก 1 คืน
- พอครบ 1 คืนแล้ว ก็เอามาใส่ตะกร้า ทิ้งเอาไว้ให้สะเด็ดน้ำ ทิ้งไว้นานๆ หน่อยนะครับ
- จากนั้นเอาข้าวเหนียว ใส่ลงไปในซึ้ง แล้วเกลี่ยให้เท่าๆ กัน ให้มีความหนาเท่าๆ กัน แนะนำว่าให้ใช้ซึ้ง เพราะจะมีพื้นที่กว้าง และแบนราบ ซึ่งจะทำให้ข้าวเหนียว สุกพร้อมกัน และสุกอย่างทั่วถึง
- นึ่งไปเลย ประมาณ 1 ชม.
- เอามะพร้าวมาปอกเปลือก และผ่าออก จากนั้นก็ขูดเอาเนื้อมะพร้าวออกมา เพื่อจะทำน้ำกะทิครับ
- จากนั้น คั้นเอาน้ำกะทิ เฉพาะหัวกะทิออกมา ( ดูวิธีคั้นหัวกะทิแบบเต็มๆ ได้ที่ สูตรบัวลอยไข่หวานโบราณ )
- พอได้หัวกะทิแล้ว ก็เอามาผสมกับ น้ำตาลทรายขาว ( 4- 5 ขีด ) และเกลือ ( 1 ขีด )
- เอาไปตั้งไฟ คนให้น้ำตาล และเกลือละลาย เข้ากับกะทิ ประมาณครึ่ง ชม. ชิมไปด้วยนะครับ ว่ารสชาติถูกใจหรือยัง
- พอได้ที่แล้วก็ยกลงมา พักทิ้งไว้จนเริ่มเย็นนิดนึง แล้วก็เอามากรองด้วยผ้าขาวบางอีกครั้งหนึ่ง เพื่อกรองเศษต่างๆ ออกไป
- ตักข้าวเหนียว ที่เพิ่งจะนึ่งสุก ร้อนๆ ออกมาใส่ในกะละมัง ที่มีน้ำกะทิ ผสมเกลือ และน้ำตาล อยู่แล้วทันที หรือที่เรียกว่า “มูล”
- เอาข้าวเหนียวไปมูลทิ้งเอาไว้ ครึ่ง ชม.
- จากนั้นก็เอามือไปตักมูลขึ้นมา เป็นอันเสร็จเรียบร้อย สำหรับขั้นตอนการทำ ข้าวเหนียวมูล
- ต่อไปก็เป็นการทำ น้ำกะทิทุเรียน เริ่มด้วยการ ใส่หัวกะทิ ลงไปในหม้อ
- ใส่ น้ำตาลมะพร้าว และเกลือนิดนึง คนให้ส่วนผสมละลายก่อน
- จากนั้นนำไปตั้งไฟ กวนให้ส่วนผสมทุกอย่างละลายจนเข้ากันดี ประมาณ 10 นาที
- จากนั้น ใส่หัวกะทิสด ลงไปในหม้ออีกที เพื่อเพิ่มความหอมของกะทิ ให้มีมากขึ้นอีก
- ใส่ทุเรียน ชะนี และหมอนทองลงไป แล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากันดี อีกสักพักหนึ่ง ประมาณ 5 นาที
- ยกลงจากเตา เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ
- ตักข้าวเหนียวใส่ถ้วย ราดด้วย น้ำกะทิทุเรียน
- ต่อไปก็ทำน้ำกะทิราดส่วนหัว โดยจะใช้หัวกะทิ (ไม่ต้องตั้งไฟนะครับ) ผสมกับเกลือนิดนึง ราดลงไป ก็เป็นอันพร้อมเสิร์ฟแล้วครับ
เคล็ดลับสำคัญของเมนู ข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน
- เมนูนี้ จะใช้หัวกะทิเยอะพอสมควร และต้องเป็นกะทิที่คั้นเองเท่านั้นนะครับ อย่าใช้กะทิสำเร็จรูป รสชาติ และความหอม มันสู้กันไม่ได้นะครับ ขูดเอง คั้นเอง ดีที่สุดครับ
- การล้างข้าวเหนียว ด้วยสารส้ม ให้เอาข้าวมาขัดกับสารส้มเบาๆ ทำไปเรื่อยๆ อย่าขัดแรงนะครับ ข้าวจะแตกหักได้
- การแช่ข้าวเหนียว ต้องแช่เอาไว้ อย่างน้อยๆ 1 คืนนะครับ อย่าแช่น้อยกว่านั้น
- ข้าวเหนียว ก่อนจะนำไปนึ่ง ต้องเอามาพักทิ้งไว้ ให้สะเด็ดน้ำจริงๆ ถ้ายังมีน้ำหลงเหลืออยู่ เวลาหุงออกมาแล้ว ตรงก้นจะเละ และแฉะมากนะครับ
- การใส่ข้าวเหนียว ผสมกับน้ำกะทิ ที่ผสมด้วย น้ำตาลทรายขาว และเกลือเรียบร้อยแล้ว ต้องทำตอนที่ข้าวเหนียวยังร้อนๆ ทันทีนะครับ พูดง่ายๆ คือ ตักจากในซึ้งออกมา ใส่ลงไปในน้ำกะทิทันที เพราะถ้าไปทำตอนที่ข้าวเหนียวเย็นแล้ว มันจะไม่ดูดซับน้ำกะทิเข้าไปในเม็ดข้าวนะครับ
- เกลือคือเคล็ดลับสำคัญของเมนูนี้ หัวกะทิ ต้องใส่เกลือ เยอะพอสมควร เพื่อตัดหวาน คือ รสชาติของน้ำกะทิ ต้องเค็มนำนะครับ ไม่อย่างนั้น มันจะเลี่ยน จนกินได้แค่ไม่กี่ช้อน ก็หวานคอจนกินไม่ลงแล้วครับ
- เมนูนี้ ทำไว้กินได้แค่ 2 วันเท่านั้นนะครับ อย่าเก็บไว้นานกว่านั้นนะครับ
- จุดเด่นของการทำเมนูนี้กินเองที่บ้านก็คือ น้ำกะทิทุเรียน ต้องกินตอนที่มันกำลังร้อนๆ อุ่นๆ จะให้รสชาติดีที่สุดครับ ซึ่งถ้าไปซื้อตามร้านมากิน มันจะไม่ร้อนครับ
หากท่านต้องการปักหมุด หรืออยากเก็บสูตรอาหาร เมนูนี้ไว้อ่านทีหลัง แนะนำให้ท่าน ทำการ แชร์ เมนูนี้ ลงใน เฟสบุ๊ค ของท่านเอง จะดีที่สุดครับ แค่กด LIKE อย่างเดียว มันจะหาไม่เจอครับ ต้องแชร์เอาไว้ใน Timeline ของท่านเลย จะดีที่สุดครับ หรือท่านอาจจะเลือกทำการ Bookmark เอาไว้ที่หน้าเว็บของท่านก็ได้ครับ เพื่อความสะดวก เวลาเปิดย้อนกลับมาดูใหม่ หรือไม่ ก็แค่จำชื่อเมนูเอาไว้ แล้วมาพิมพ์ค้นหา ในช่องค้นหา ของเว็บ ฟู้ดเทพ แห่งนี้ได้เลยครับ ตอนนี้เรามี สูตรอาหาร มากกว่า 100+ เมนูแล้วครับ
มีบางท่าน สอบถามเข้ามาว่า ขออนุญาตแชร์ สูตรนี้ทาง Facebook ได้หรือไม่ อันนี้ผมขอประกาศไว้ทางนี้เลยนะครับ หากท่านใดชื่นชอบ สามารถนำสูตรนี้ไปแชร์ แบ่งปัน หรือบอกต่อให้ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติสนิท มิตรสหาย และเพื่อนๆ ของท่าน ผ่านทาง Facebook และ LINE ได้เต็มที่เลยนะครับ เพราะสูตรอาหารไทย ก็มีไว้เพื่อคนไทยอยู่แล้ว เพียงแต่ช่วยเครดิตที่มานิดนึง ว่ามาจากเว็บ ฟู้ดเทพ สูตรอาหารออนไลน์ แห่งนี้ เพื่อจะได้ไม่ผิดกฎหมายลิขสิทธิ์ด้วยนะครับ แนะนำว่า ถ้าอยากจะแชร์ กดปุ่มแชร์ทาง Facebook ที่อยู่ท้ายสูตรทุกเมนูอาหาร ได้เลยครับ ผมทำเอาไว้ให้แล้ว ง่ายและสะดวกดีครับ
ท่านใด มีสูตรอาหาร แล้วต้องการเผยแพร่ เพื่อเป็นวิทยาทาน แก่คนทั่วไป เพื่อให้ สูตรอาหาร ของท่าน คงอยู่ไปตลอดกาล สามารถส่งมาให้เรา ช่วยเผยแพร่ลงใน เว็บฟู้ดเทพ ได้เลยครับ ส่งมาทาง “ข้อความส่วนตัว” ในเพจ Facebook: foodtep ได้เลยครับ ผมจะนำมาใส่ใน ตำราอาหารออนไลน์ แห่งนี้เอาไว้ให้ พร้อมกับเครดิต ชื่อเจ้าของสูตรด้วย ว่าใครเป็นเจ้าของสูตรนั้น
อย่าลืมกด LIKE เพื่อติดตาม สูตรอาหารออนไลน์ และเคล็ดลับเด็ดๆ ในการทำอาหาร ที่เพจ Foodtep.com กันด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาด เวลามีเมนูใหม่ๆ มาบอกสูตรกัน และอย่าลืม แสดงความคิดเห็น ว่าคุณชอบสูตรเมนูนั้นๆ หรือไม่ ในหน้าเพจ Facebook ของเราด้วยนะครับ ขอขอบคุณสำหรับการติดตามครับ